Connect with us

Others

Stand With Crypto กระตุ้นให้ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือเกี่ยวกับเทคโนโลยีคริปโตในการอภิปรายครั้งแรก เพื่อการลงคะแนนอย่างมีข้อมูล

Published

on

ในช่วงที่ความสนใจของสาธารณชนต่อสกุลเงินดิจิทัลกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมเหรียญคริปโตพยามที่จะสร้างความตระหนักและการรับรู้ในหมู่ผู้นำประเทศ เพื่อผลักดันเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงวงการการเงินได้ หนังสือเปิดผนึกจากกลุ่ม Stand With Crypto ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้โอกาสผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีคีย์ประเด็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ในการเลือกตั้งครั้งแรก เพื่อช่วยให้ผู้คนรับรู้ข้อมูลที่จะทำให้พวกเขาสามารถลงคะแนนได้อย่างมีความรู้ความเข้าใจ

ประวัติของประธานาธิบดี Biden ต่อสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในวงการ โดยสามารถตรวจสอบจากคำสั่งบริหาร, คำแถลงจากทำเนียบขาว และการกระทำของกำกับดูแลที่เขาได้แต่งตั้ง รวมถึงที่คณะกรรมการความมั่นคงและการแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ ส่วนบริหารของ Trump นั้นไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวที่สำคัญในด้านคริปโต และการเปลี่ยนแปลงทัศนคติถึงเทคโนโลยีคริปโตคือเรื่องล่าสุดที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมาก

ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมการเงินทั่วโลกได้เฝ้าดูวิธีการที่สหรัฐอเมริกาจะปรับเข้ากับเทคโนโลยีทางการเงินอย่างคริปโตเคอเรนซี่ การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายและการรับรู้แนวทางการกำกับดูแลเป็นสิ่งที่จะมีผลกระทบในวงกว้าง การให้ความสำคัญในเวทีการเมืองโดยตรงนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจของประชาชนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตมีคำถามและความกังวลของตนเองได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีความผันผวนแต่ก็มีหลายบ่งชี้ที่ชี้ว่าเทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายคลึงกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอดีต นักลงทุนและผู้ประกอบการจำนวนมากมองหาโอกาสระยะยาวและโอกาสสำหรับนวัตกรรมต่อไป การอภิปรายเรื่องคริปโตในภาคสนามการเมืองเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น และรับรองว่าอุตสาหกรรมจะถูกกำกับดูแลในลักษณะที่ส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโตในตลาดโลก

อย่างไรก็ดี, อุปสรรคไม่ใช่เรื่องน้อยสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต การที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้คนจำนวนมากและสร้างความเชื่อมั่นในตลาดการเงินแบบดั้งเดิมคือหนทางที่ยากลำบาก ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย, การฟอกเงิน, และการควบคุมทางการเงินเป็นเพียงประเด็นหลักๆ ที่ต้องได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ

ในท้ายที่สุด, การพูดถึงคริปโตในการเมืองแสดงให้เห็นถึงการยอมรับในระดับหนึ่งที่สังคมมีต่อเทคโนโลยีนี้ และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การอภิปรายในเวทีสาธารณะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม ซึ่งต้องส่งเสริมและปกป้องโดยนักลงทุน, ผู้ประกอบการ, และนักวิชาการ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีประโยชน์สูงสุดต่อสังคม.

Continue Reading
Click to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Others

ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน ผู้ก่อตั้ง Cardano (ADA) เผยปัญหาการเซ็นเซอร์โดย AI ที่กำลังก่อรูปแบบความคิดในสังคม

Published

on

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้านของสังคม แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มการเซ็นเซอร์ด้วย AI กำลังกลายเป็นประเด็นที่มีความกังวลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความหลากหลายของข้อมูลและความเข้าใจของสังคม

Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano (ADA) เป็นหนึ่งในผู้ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่าการฝึกฝน AI ในลักษณะ “Alignment” หรือการทำให้ AI สอดคล้องกับมาตรฐานหรือแนวทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า มีผลให้เทคโนโลยีนี้สูญเสียประโยชน์ใช้งานไปเมื่อเวลาผ่านไป จากมุมมองของ Hoskinson วิธีการดังกล่าวนำไปสู่การป้องกันไม่ให้ความรู้บางอย่างถูกเสนอกับเยาวชนที่เติบโตขึ้นภายใต้ระบบการศึกษาปัจจุบัน ซึ่งการตัดสินใจนี้ทำโดยกลุ่มคนน้อยๆ ที่ไม่สามารถถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้โดยกระบวนการเลือกตั้ง

การกังวลนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากการตอบสนองของโมเดล AI ที่สำคัญ เช่น ChatGPT และ Claude 3.5 Sonnet จาก Anthropic ที่ให้คำตอบที่แตกต่า, ต่างกันเมื่อถูกถามว่า “Farnsworth fusor” คืออะไรและสร้างอย่างไร โดยทั้งสองโมเดลได้ยอมรับศักยภาพในการก่อให้เกิดอันตรายจากอุปกรณ์ดังกล่าว แต่ก็ยังคงให้รายการส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการสร้าง

ความกังวลเรื่องการเซ็นเซอร์ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลและผู้คิดหน้าใหม่ในด้านต่างๆ ที่เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการและการนำไปใช้ของ AI อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่หลวงหลายด้าน ตั้งแต่การกระจายข้อมูลเท็จไปจนถึงความเป็นไปได้ในการสูญเสียการควบคุมระบบ AI ที่มีอิสระ

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้หยุดยั้งความพยายามในการนำเสนอและการเปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ๆ ในตลาด โดยที่ Harmonic ซึ่งเป็นโปรโตคอลใหม่จาก Robinhood ถูกกล่าวถึงเป็นตัวอย่างล่าสุดของความพยายามในการสร้างโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่มุ่งเน้นไปที่เหล่านักวิทยาการและการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ การเคลื่อนไหวเหล่านี้สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีและการบริหารจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการเซ็นเซอร์ด้วย AI แต่อุตสาหกรรมก็ยังคงมุ่งหน้าไปข้างหน้าด้วยความหวังในการสร้างอนาคตที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

Continue Reading

Others

ยุโรปบูรณาการสกุลเงินดิจิทัล ‘ยูโรดิจิทัล’ อย่างเต็มรูปแบบพร้อมมาตรการความเป็นส่วนตัวสูง

Published

on

ในการเปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดของการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลโดยธนาคารกลาง (CBDC) ครั้งแรก ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์ที่เน้นการปรับปรุงการทำธุรกรรมทางการเงินให้ทันสมัยด้วยการกำหนดมาตรการป้องกันความเป็นส่วนตัวและความสามารถด้านการดำเนินงานที่สำคัญ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ของการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์อีกด้วย

ECB ได้แสดงความพยายามอย่างมากในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่ใช้งานยูโรดิจิทัลที่เสนอ รายงานระบุถึงการป้องกันทางเทคนิคหลายประการ เช่น การใช้การปลอมแปลงชื่อ (pseudonymization) การเข้ารหัสอย่างแข็งแกร่ง และการใช้ฟังก์ชันการแฮช มาตรการเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้การทำธุรกรรมของบุคคลถูกติดตามในขณะที่ยังคงมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง นอกจากนี้ ECB กำหนดให้ผู้ให้บริการชำระเงินต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคอย่างชัดเจนก่อนที่จะทำการค้าข้อมูลทางการเงิน กรอบงานนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและปรับปรุงความโปร่งใสในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล

คุณลักษณะสำคัญอีกประการของโครงการสกุลเงินดิจิทัลของ ECB คือการสนับสนุนการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ รายงานพัฒนาการอธิบายวิธีการที่การทำธุรกรรมเหล่านี้สามารถดำเนินการโดยตรงระหว่างสองฝ่ายโดยไม่ต้องมีตัวกลาง นี้จะได้รับการสนับสนุนผ่านอุปกรณ์การชำระเงินขั้นสูงเช่นสมาร์ทโฟนและ “สมาร์ทการ์ด” ที่ออกแบบมาอย่างพิเศษ เมื่อการเชื่อมต่อออนไลน์กลับมา การ์ดเหล่านั้นอาจมีพลังงานแบตเตอรี่หรือใช้เรลย์เชื่อมต่อเพื่อซิงก์ธุรกรรมกับบล็อกเชน CBDC ความสามารถนี้อาจเพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกในการใช้งานของยูโรดิจิทัลได้โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่บริการอินเทอร์เน็ตไม่เสถียรหรือไม่มีให้บริการ

ECB ไม่เพียงแต่โฟกัสที่ด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นที่การให้คำปรึกษาอย่างกว้างขวางเพื่อรูปแบบกรอบงาน การจัดตั้ง “กลุ่มพัฒนาระเบียบ” เป็นการเคลื่อนไหวอย่างยุทธศาสตร์เพื่อรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่ม รวมถึงผู้ให้บริการ นักพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และประชาชนทั่วไป ในการกำหนดกรอบการกำกับดูแลและเทคนิคของ CBDC กลุ่มนี้มีภารกิจส่งมอบร่างแรกของระเบียบ CBDC ในสิ้นปี 2024 ทัศนคติรวมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับความกังวลที่อาจเกิดขึ้นและรวมมุมมองที่หลากหลายไว้ในผลิตภัณฑ์สุดท้าย เพื่อเพิ่มการยอมรับและประสิทธิผลของยูโรดิจิทัล

แม้จะมีความก้าวหน้าเหล่านี้ แต่ก็ยังมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพของบุคคลจาก CBDC การสนทนาล่าสุด เช่น ที่ Oslo Freedom Forum ได้เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการขยายอำนาจของรัฐและการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ควบคุมโดยรัฐในทางที่ผิด นอกจากนี้ การสำรวจโดย Trezor ในปี 2023 ระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจกับความเสี่ยงทางความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับ CBDC นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความเสี่ยงเหล่านี้มากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่เช่น stablecoins ที่สหรัฐอเมริกา บุคคลทางการเมืองรวมถึงอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้ออกมาคัดค้าน CBDC อย่างเข้มงวด โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการเฝ้าระวังและการลดลงของความเป็นส่วนตัวในสังคมเปิด

Continue Reading

Others

ราคาอัลต์คอยน์ลดฮวบ หลังจากการปลดล็อกโทเค็นต่อเนื่องและแรงกดดันจากกองทุนเวนเจอร์

Published

on

ในช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตเคอเรนซีกำลังประสบกับความผันผวนสูง, bitcoin และ ethereum มีการแสดงผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจ, โดยอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดในรอบปี. แต่ตรงกันข้าม, นักลงทุนใน altcoin หลายคนกลับพบกับความท้าทายในการสร้างผลกำไร ดังนี้ไม่ใช่เหตุการณ์แบบสุ่ม แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่ทำงานร่วมกัน.

หนึ่งในปัจจัยหลักคือการเพิ่มจำนวนของสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดอย่างต่อเนื่องผ่านการปลดล็อคโทเค็น. การปลดล็อคโทเค็นทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอุปทานตลาดโดยตรง, ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อราคา altcoin. บ่อยครั้ง, การปลดล็อคเหล่านี้มาจากกองทุนการลงทุนที่ต้องการขายสินทรัพย์ของตนเพื่อรับผลตอบแทน, นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของอุปทานตลาดในขณะที่ความต้องการไม่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย.

นอกจากนี้, การขาดแคลนการไหลเข้าของเงินทุนใหม่เข้าสู่ตลาดคริปโตเคอเรนซีก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความท้าทายให้กับนักลงทุน altcoin เช่นกัน. แม้ว่า Bitcoin และ Ethereum อาจดึงดูดนักลงทุนใหม่และเงินทุนที่มีอยู่ แต่ altcoins มากมายไม่สามารถทำเช่นนั้นได้, ส่งผลให้มีความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน.

อีกหนึ่งปัจจัยคือแนวโน้มฤดูกาลซึ่งช่วงเวลาบางช่วงของปี, เช่นช่วงเทศกาลหรือช่วงวันหยุดต่างๆ, อาจส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตโดยรวม. นี่สามารถส่งผลให้มีการลดลงอย่างรุนแรงในราคาของ altcoin เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือ Ethereum ที่สามารถรักษาระดับความมั่นคงได้มากขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน.

การตระหนักรู้ถึงผลกระทบเหล่านี้, นักลงทุนที่สมาร์ทต่างมองหากลยุทธ์ในการปรับพอร์ตเพื่อชดเชยผลกระทบดังกล่าว. เทคนิคหนึ่งคือการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพในระยะยาวและไม่ได้ถูกปัจจัยดังกล่าวเหล่านี้กระทบตรงๆ. นอกจากนี้, การเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดและการประเมินผลกระทบของการปลดล็อกโทเค็นและการไหลเข้าของเงินทุนอาจช่วยให้นักลงทุนสามารถนำหน้าตลาดได้.

ด้วยการประเมินสถานการณ์อย่างละเอียดและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีกลยุทธ์, นักลงทุนมีโอกาสที่จะเอาชนะความท้าทายที่ตลาดนำเสนอได้. อย่างไรก็ตาม, ความสำเร็จในการลงทุนคริปโตเคอเรนซีไม่ได้มาโดยง่ายและต้องการความรอบรู้, การวางแผน, และการรับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด.

สรุปได้ว่า, ในขณะที่ Bitcoin และ Ethereum ยังคงแสดงโอกาสการเติบโตที่น่าทึ่ง, การลงทุนใน altcoin ยังคงเป็นเส้นทางที่มีอุปสรรคและความท้าทาย. ด้วยการเข้าใจในปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อราคาและการเตรียมที่ดี, นักลงทุนสามารถทำการลงทุนได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้นและพยายามที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดคริปโตเคอเรนซีที่รวดเร็วและไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิผล.

Continue Reading

Trending

Copyright © 2024 NewsReportz