Others
The Graph ตอบโจทย์เว็บ 3.0 ด้วยเทคโนโลยี AI-DePIN ในการจัดทำดัชนีข้อมูลบล็อกเชนที่ซับซ้อน
![](https://newsreportz.com/wp-content/uploads/2024/05/1714734281.png)
The Graph เป็นโปรโตคอลด้านการทำดัชนี โดยมีวิธีการจัดระเบียบและสร้างแผนที่ข้อมูลออนไลน์เพื่อให้โครงการและผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยทำหน้าที่คล้ายกับบริการคลาวด์ของ Amazon Web Service ที่ให้บริการด้านการทำดัชนีใน Web2 The Graph นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อให้บริการที่คล้ายกับ Google แต่เน้นไปที่ Web3 โดยดำเนินการตลาดที่เปิดกว้างและกระจายอำนาจสำหรับข้อมูลที่จัดดัชนี การจัดดัชนีข้อมูลบล็อกเชนไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ดู เนื่องจาก The Graph ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้วิธีการจัดดัชนีข้อมูล จากนั้นจึงจัดระเบียบข้อมูลนี้เป็น subgraphs เพื่อปรับปรุงการค้นหาข้อมูล
นอกจากนี้, The Graph ยังช่วยลดความจำเป็นสำหรับบริการแบบรวมศูนย์ เช่น AWS และดำเนินการภายในภาคส่วน DePIN ที่รู้จักกันในชื่อเครือข่ายการคำนวณ GRT ซึ่งเป็นโทเค็นพื้นฐานของ Graph ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโทเค็นคริปโตที่ใช้ AI และมีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในปี 2023
คุณสมบัติหลักที่ทำให้ The Graph เป็นเหรียญ AI-DePIN ที่โดดเด่น ประกอบด้วย
– บริการของ The Graph ครอบคลุมหลากหลายภาคส่วน เช่น DeFi และ NFTs
– GRT ถูกระบุในตลาดการแลกเปลี่ยนระดับ Tier 1 ส่วนใหญ่
– โปรเจคด้านคริปโตชั้นนำหลายโปรเจค เช่น Uniswap ใช้บริการของ The Graph
การป้องกันและความปลอดภัยในข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญในยุคดิจิทัล โดย The Graph ใช้ระบบประมวลผลที่กระจายและไม่มีการควบคุมจากศูนย์กลางเพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล การได้รับการรับรองและการเข้าถึงจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมคริปโตเน้นย้ำว่า The Graph มีศักยภาพในการเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ AI-DePIN ที่สำคัญที่สุด
การแปลงข้อมูลดิจิทัลเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้และสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานที่มีการควบคุมจากศูนย์กลางเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญของการปฏิวัติดิจิทัลที่เรากำลังเห็น The Graph มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเติมเต็มช่องว่างระหว่างข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลนั้น ในที่สุด การบูรณาการระหว่างปัญญาประดิษฐ์และบล็อกเชนผ่านโครงการเช่น The Graph ไม่เพียงการันตีการเติบโตและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่ยังชี้ไปที่โลกที่ข้อมูลไม่ได้ถูกครอบครองหรือควบคุมโดยบริษัทเดียว
Others
ชื่อข่าว: “จอห์น ดีตัน ผู้สนับสนุน XRP เปิดเผยการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล BTC, ETH, SOL และเตรียมแข่งขันกับเซน. วอร์เรนในการเลือกตั้ง”
![](https://newsreportz.com/wp-content/uploads/2024/07/1721856433.png)
ในแวดวงการเมืองและการเงินดิจิทัลของสหรัฐอเมริกา มีตัวละครที่น่าสนใจไม่หยุดหย่อน หนึ่งในนั้นคือจอห์น ดีตัน ทนายความที่สนับสนุน XRP และผู้ก่อตั้ง CryptoLaw ซึ่งประกาศทรัพย์สินส่วนใหญ่ในพอร์ตการลงทุนของเขาประกอบด้วย bitcoin (btc), ethereum (eth), solana (sol) และ XRP ซึ่งสะท้อนถึงการเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งในตลาดเงินดิจิทัล
ดีตันไม่ได้เพียงแค่ยืนหยัดเป็นผู้สนับสนุนการเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังมีความทะเยอทะยานในการรับตำแหน่งทางการเมือง โดยกำลังแข่งขันเข้าสู่วุฒิสภาในรัฐแมสซาชูเซตส์ ฝ่ายตรงข้ามของเขาคือวุฒิสมาชิกธิบดี Elizabeth Warren ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้วิพากษ์วิจารณ์การเงินดิจิทัลสุดแข็งขัน ดีตันนั้นสนับสนุนโดยพรรครีพับลิกันในขณะที่วอร์เรนสังกัดพรรคเดโมแครต
การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินล่าสุดของดีตันระบุว่าประมาณ 81.5% ของสินทรัพย์สุทธิของเขาอยู่ใน BTC และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ BTC นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการยึดมั่นในการลงทุนดิจิทัลอย่างแรงกล้า ดีตันเชื่อว่านั่นเป็นการตีความใหม่และการยืนยันศรัทธาในอนาคตของเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น BTC, ETH, หรือคริปโตคัมภีร์อื่นๆ
การเลือกตั้งนี้มีความหมายมากกว่าแค่ที่นั่งวุฒิสภา มันเป็นการต่อสู้ทางไอเดียโลยีระหว่างผู้ที่ปรารถนาที่จะยอมรับและหลอมรวมนวัตกรรมดิจิทัลเข้าสู่สังคม และผู้ที่มองว่าเหรียญคริปโตเป็นภัยคุกคามทางการเงินและปฏิบัติการที่ต้องควบคุมอย่างเข้มแข็ง การสนับสนุนจากผู้เล่นทรัพย์สินดิจิทัลรายใหญ่ รวมถึง Ripple และปฏิสัมพันธ์ของ Cameron และ Tyler Winklevoss ที่มีอิทธิพลด้านการเงินดิจิทัล ที่แต่ละคนบริจาคมูลค่า 510,000 ดอลลาร์สหรัฐในรูปแบบ BTC เพื่อสนับสนุนการหาเสียงของดีตัน ถือเป็นการเปิดเผยว่ามีประชากรส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมคริปโตที่ปรารถนาถึงการเปลี่ยนแปลงในวุฒิสภา
ความพยายามของวอร์เรนในการควบคุมสถานะการณ์การเงินดิจิทัลเป็นที่รู้จักกันดีและได้รับการตอบสนองด้วยความเป็นปฏิปักษ์จากชุมชนคริปโต ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของดีตันในฐานะทนายความด้านคริปโต การเข้าร่วมในการเมืองถือเป็นก้าวที่สำคัญในการส่งเสริมการยอมรับและการปรับปรุงกฎหมายเพื่อรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต
ตัวเลือกที่จะทำให้ดีตันได้รับการเลือกเข้าสู่วุฒิสภาสามารถเป็นตัวเปลี่ยนเกมไม่เพียงแต่สำหรับกลุ่มนักลงทุนและผู้บริโภคของกลุ่มเงินตราดิจิทัล แต่ยังสำหรับอนาคตการกำกับดูแลและนโยบายที่จะนำพาสหรัฐฯ ไปยังการเป็นผู้นำทางความคิดในยุคดิจิทัลใหม่ การเลือกตั้งนี้เป็นมากกว่าการแข่งขันทางการเมือง แต่เป็นการทดสอบจริงเจตจำนงของประชาชนในการประยุกต์ใช้และรับรู้ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีที่มีพลวัตอย่างที่เห็นในอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัล.
Others
Osmosis เปิดตัวฟีเจอร์การซื้อขายด้วยคลิกเดียวบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนและ DeFi ที่ใช้เทคโนโลยี Cosmos
![](https://newsreportz.com/wp-content/uploads/2024/07/1721510677.png)
ในแวดวงเทคโนโลยีบล็อคเชนและการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) การประกาศการเปิดตัวบัญชีอัจฉริยะใหม่จากโปรเจ็กต์ Osmosis ซึ่งสร้างขึ้นด้วยเทคนิคจาก Cosmos เป็นการสร้างมิติใหม่ที่น่าสนใจ โดย Osmosis ซึ่งประกาศตัวเองว่าเป็น “แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบข้ามเครือข่ายและจุดรวม DeFi ที่ครบวงจรเพียงหนึ่งเดียว” ได้เปิดตัวการซื้อขายด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียวสำหรับผู้ใช้ทุกคนผ่านบัญชีอัจฉริยะที่เพิ่งได้รับการนำเข้าใช้
จากการผ่านพระราชบัญญัติแนะนำการทำงานของบัญชีอัจฉริยะ ทำให้โปรเจ็กต์นี้ได้นำเสนอฟีเจอร์ที่ล้ำสมัย เช่น การรองรับ Passkeys และ Face ID ในการอนุมัติ, เปิดประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น การแนะนำนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความยุ่งยากในการอนุมัติกระเป๋าเงิน แต่ยังเป็นเพียงการเริ่มต้นของฟีเจอร์อื่นๆ ที่จะถูกเปิดตัวในบัญชีอัจฉริยะนี้ด้วย
ในอีกมุมหน่งของโลกคริปโต Galaxy Digital, บริษัทในวงการคริปโตที่ประสบความสำเร็จและนำโดย Michael Novogratz, ได้ทำการซื้อสินทรัพย์ ethereum จำนวนมากของบริษัท CryptoManufaktur LLC ในข้อตกลงที่จะเพิ่มอัตราสินทรัพย์ Ethereum ภายใต้การลงทุนอีกประมาณ 43.5% การรวมสินทรัพย์นี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ Galaxy Digital ในการขยายพอร์ตการลงทุนใน Ethereum แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในโลก DeFi เพิ่มขึ้น
นอกจากการขยายพอร์ตโฟลิโอลงทุนใน Ethereum แล้ว การนำเสนอแนวทางการลงทุนรูปแบบใหม่กำลังเป็นที่สนใจ ตัวอย่างเช่น Bitrue Ventures ได้ประกาศการสร้างกองทุนลงทุน $40 ล้านเพื่อสนับสนุนบริษัท DeFi ตัวเล็กที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในด้าน AI, การโทเค็นไซส์สินทรัพย์ในโลกจริง, GameFi, และ DePIN นี่เป็นการเห็นอกเห็นใจของ Bitrue Ventures ต่อความพยายามและการพัฒนาในสาขาเหล่านี้ โดยเปิดโอกาสให้การพัฒนานวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนและมีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน
การเปิดตัวบัญชีอัจฉริยะของ Osmosis ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ในการซื้อขายและการจัดการบัญชีในโลก DeFi เท่านั้น แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงกับการเติบโตและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวงการคริปโตและการเงินแบบกระจายอำนาจ การพัฒนาใหม่ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสใหม่สำหรับผู้เข้าร่วมตลาด แต่ยังส่งเสริมให้มีการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่ายดาย ลดความยุ่งยาก และเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม สะท้อนถึงศักยภาพอันเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธของเทคโนโลยีบล็อคเชนในอนาคต.
Others
NEAR Protocol เปิดตัวข้อเสนอด้านการกำกับดูแลใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ร่วมมือกับ Gauntlet และ NEAR Foundation ส่งผลให้มูลค่าเหรียญ NEAR เพิ่มขึ้น 10%
![](https://newsreportz.com/wp-content/uploads/2024/07/1721165124.png)
ในวงการดิจิตัลที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งในปัจจุบันนี้ NEAR Protocol หนึ่งในแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบล็อคเชนได้กลายเป็นหัวข้อฮอตในบรรดานักลงทุนและผู้สนใจในด้านคริปโตเคอเรนซี ด้วยการเปิดตัวข้อเสนอการกำกับดูแลใหม่ที่ผนึกกำลังร่วมกับ Gauntlet และ NEAR Foundation การเคลื่อนไหวนี้ได้ส่งผลให้มูลค่าของโทเค็น NEAR เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อเสนอดังกล่าวมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างความเป็นกลางและเพิ่มระดับการกำกับดูแลภายในระบบนิเวศของ NEAR โดยการใช้ระบบการโหวตที่อิงจากการถือหุ้นแทนการโหวตแบบหนึ่งคนหนึ่งเสียง วิธีการนี้คาดหวังว่าจะให้อิทธิพลมากขึ้นแก่ผู้ถือโทเค็น NEAR โดยเชื่อมโยงโดยตรงกับสัดส่วนของการถือหุ้นของพวกเขา ซึ่งหมายความว่า ยิ่งถือหุ้นมากเท่าไหร่ ความสามารถในการมีอิทธิพลต่อการดำเนินงานและการตัดสินใจของระบบ ก็จะมากขึ้นเท่านั้น
ที่สำคัญ การปฏิรูปวิธีการบริหารจัดการโหนดในระบบนิเวศก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอนี้ โดยมีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดำเนินการคัดเลือกและตรวจสอบข้อเสนอโครงการที่ได้รับจากทุนสนับสนุน นี่คือการปรับปรุงความเป็นมืออาชีพและความโปร่งใสในการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศของ NEAR อีกด้วย
การเสนอโครงสร้างการเงินและกลไกการจูงใจใหม่ก็ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของข้อเสนอนี้ เพื่อการสนับสนุนแบบจำพวกใหม่ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเห็นถึงการมอบรางวัลและบรรลุผลได้ดีกว่าให้แก่ผู้ที่ถือโทเค็น veNEAR แต่ยังรวมถึงการจูงใจสำหรับการถือครองระยะยาวเพื่อเพิ่มสิ่งจูงใจในการรักษาตำแหน่งในระบบนิเวศ
การเพิ่มขึ้นของมูลค่าโทเค็น NEAR ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตอบรับที่ดีจากตลาดและผู้ลงทุนต่อข้อเสนอการกำกับดูแลใหม่นี้ ณ เวลานี้ โทเค็น NEAR ได้เห็นการปรับเพิ่มขึ้น 11% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างมากจากชุมชนเกี่ยวกับทิศทางและอนาคตของ NEAR Protocol เพื่อการเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบล็อคเชนที่มีการกำกับดูแลและการดำเนินงานที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ มูลค่าตลาดและปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงของโทเค็น NEAR ก็ได้รับการเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งบ่งบอกถึงกระแสความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนและผู้ใช้งาน ควบคู่ไปกับการแสดงออกในแง่ดีของสิ่งต่างๆ เช่น การเคลื่อนไหวของ MACD ที่เข้าสู่พื้นที่บวกและแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ยังมีสัญญาณบางอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงการปรับตัวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่โดยรวมแล้ว ตลาดยังคงตอบรับในทางบวกต่อข้อเสนอด้านการกำกับดูแลใหม่นี้ แสดงถึงมุมมองที่สดใสต่อการเติบโตและการพัฒนาของ NEAR Protocol ในระยะยาว
-
Cryptocurrency3 months ago
Exploring the Future of Finance: Regulated Settlement Network PoC Aims to Unify Banking and Securities on a Single Platform
-
Cryptocurrency2 months ago
Fantom Foundation Boosts Blockchain Performance with Opera Upgrade to Hit 2000 TPS, Following Google Cloud Partnership
-
Cryptocurrency3 months ago
Protocol Village Announces ‘Expander’: An Open-Source ZK Proof System Doubling Speed Compared to Competitors
-
Cryptocurrency3 months ago
OpenAI Gears Up for Exciting ChatGPT Update: New Features and Potential Pricing Changes on the Horizon
-
Altcoins2 months ago
Five Altcoins Including Pepe Coin and FLOKI Eye Major Gains: A Path to Turn $10,000 into $1 Million Revealed
-
Cryptocurrency3 months ago
Member of REvil Ransomware Syndicate, Rabotnik, Receives 13-Year Jail Sentence
-
Cryptocurrency3 months ago
Dropbox Suffers Significant Data Breach: A Detailed Look at the Incident
-
Altcoins2 months ago
Fetch.ai (FET) Faces Potential Correction as Investor Support Wanes and Death Cross Looms